วันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2568  เวลา 10.00 น.

พ.ต.อ.วัชรวีร์  ธรรมเสมา  ผกก.สน.จักรวรรดิ

 อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรการในการดูแลรักษา การยืม และการใช้สิ่งของหลวงทุกประเภท  โดยเฉพาะ  อาวุธปืน  และยานพาหนะ    ซึ่ง ได้มีการจัดทำมาตรการเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินของทางราชการ ของบริจาค และการจัดเก็บของกลาง  โดยสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียด และทำความเข้าใจในเว็ปไซต์ของ สน.จักรวรรดิ  หัวข้อ ITA   แต่ในส่วนของวันนี้  ผกก.จะอบรมให้ความรู้ให้หัวข้อที่สำคัญ และที่จำเป็นต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด  ดังนี้

                   แนวทางทางการควบคุม  การยืม การเก็บรักษา

1. การเบิกยืม - คืน วัสดุสิ่งของหลวง ให้ ถือปฏิบัติตามระเบียบกรมตํารวจว่าด้วยการเบิกจ่ายวัสดุสิ่งของหลวงต่าง ๆ ฉบับที่ 43 พ.ศ.2530 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 การจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43(4) และมาตรา 78 ตามประมวลกฎหมายอาญา 291 มาตรา 300และมาตรา 281
2. การยืมพัสดุหรือนำพัสดุไปใช้ในกิจการใด ๆ ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของทางราชการ
   โดยผู้ให้ยืมต้องคำนึงถึงความมีประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดในเชิงภารกิจของรัฐประกอบการให้ยืมด้วย
3. ผู้ให้ยืมต้องจัดให้ผู้ยืมทำหลักฐานการยืมเป็นลายลักษณ์อักษร ตามแบบฟอร์ม
   ที่กรมบัญชีกลาง หรือสำนักงานตำรวจแห่งขาติ กำหนดทุกครั้ง
4. ผู้ให้ยืมต้องกำหนดระยะเวลาส่งคืนพัสดุโดยปกติพึงกำหนดให้สอดคล้องกับเหตุผล
   ความจำเป็นในการใช้พัสดุที่ยืมนั้น ทั้งนี้ ระยะเวลาการยืมสูงสุดสำหรับการยืมแต่ละคราวไม่ควรเกิน 1 เดือน นับจากวันที่ยืม หรือระยะเวลาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด แต่หากมีความจำเป็นอาจขอขยายระยะเวลาการยืมต่อไปได้ โดยดำเนินการให้มีหลักฐานการยืมที่ครอบคลุมระยะเวลายืมที่ขยายออกไป โดยนำข้อ 2 มาใช้โดยอนุโลม
5. กรณี พัสดุที่ยืมเกิดชํารุดเสียหาย หรือใช้การไม่ได้ หรือสูญหายไป ให้ผู้ยืมจัดการแก้ไขซ่อมแซมให้คงสภาพเดิมโดยเสียค่าใช้จ่ายของตนเอง หรือชดใช้เป็นพัสดุประเภท ชนิด ขนาด ลักษณะและคุณภาพอย่างเดียวกัน หรือชดใช้เป็นเงินตามราคาที่เป็นอยู่ในขณะยืม
6. 5. เมื่อครบกำหนดยืม หากผู้ยืมยังไม่ส่งคืนพัสดุที่ยืมไป ให้ผู้ให้ยืมหรือเจ้าหน้าที่
   ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ให้ยืมติดตามทวงพัสดุที่ให้ยืมไปคืนภายใน 5 วัน นับแต่วันครบกำหนด

ข้อ 3 แนวทางการจัดเก็บของกลาง ให้ ดําเนินการจัดเก็บของกลาง ตามระเบียบการตํารวจเกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 15 เรื่องการรับส่งงานในหน้าที่ราชการ พ.ศ.2557 และตามแนวทางการปฏิบัติดังนี้

1. ของกลางใดที่จะต้องส่งตรวจพิสูจน์ พึงดําเนินการให้ถูกต้องตามวิธีการหรือระเบียบในส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  เช่น ถ้าจะส่งไปตรวจพิสูจน์ที่   กองพิสูจน์หลักฐานฯ ก็ควรปฏิบัติตามเอกสารคู่มือของกองพิสูจน์หลักฐานฯ เรื่องคําแนะนําในการเก็บรักษาและจัดส่งเอกสารหรือวัตถุของกลางไปตรวจพิสูจน์เป็นต้น ของกลางที่จะส่งไปตรวจพิสูจน์ จะต้องให้ผู้ต้องหาลงชื่อกํากับหีบห่อและบันทึกไว้ด้วย เมื่อได้รับผลการตรวจพิสูจน์แล้วให้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบ ถ้าผู้ต้องหารับรองผลก็ให้สอบสวนเพิ่มเติมไว้เพราะถ้าในชั้นพิจารณาผู้ต้องหายังรับรองผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว ก็อาจจะไม่ต้องนําผู้ตรวจพิสูจน์มาเบิกความต่อศาลอีก
2. ในชั้นสอบสวน ถ้ามีของกลางอย่างใด ๆ จะต้องจัดทําบัญชีของกลางประกอบสํานวนการสอบสวนไว้ ( ป.วิ.อ. ม. 139 วรรคสอง )
3. นอกจากการตรวจสอบพัสดุประจําปีตามกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แล้ว ให้เจ้าหน้าที่พัสดุครุภัณฑ์สถานีตํารวจนครบาลจักรวรรดิตรวจสอบวัสดุ และบัญชีวัสดุเป็นประจําทุกเดือนรวมถึงเช็คสภาพดูแลรักษาให้วัสดุนั้นพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลาและรายงานให้หัวหน้าสถานีทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้ดําเนินการตรวจสอบวัสดุ โดยให้มีตรวจสอบและตรวจนับอาวุธยุทธภัณฑ์ของสถานีตํารวจเพื่อให้มีความพร้อมต่อการใช้งานในภารกิจ
4. การรับของบริจาคให้บุคลากรในสถานีตำรวจปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการรับเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้ทางราชการ พ.ศ. 2526 โดยกิจการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยืม การเก็บรักษา และการตรวจสอบ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในระเบียบดังกล่าว ให้ถือปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้โดยอนุโลม